คู่มือคำนวณค่าใช้จ่ายจริง: ซื้อรถจากลานประมูลต้องเสียเงินเท่าไหร่

เปิดเกมต้นทุน: ราคาที่เห็น ≠ เงินที่ต้องจ่ายจริง

ข้อผิดพลาดหมายเลข 1 ของมือใหม่ประมูลรถคือ คิดว่าราคาประมูลได้ = เงินที่ต้องจ่าย แต่ความจริงคือ มีค่าใช้จ่ายอีกหลายรายการที่ต้องเพิ่มเข้าไป บางครั้งค่าใช้จ่ายเหล่านี้สามารถเพิ่มต้นทุนขึ้นไปอีก 10-15% ของราคาประมูล

บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจทุกรายการค่าใช้จ่าย พร้อมสูตรคำนวณและตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม เพื่อไม่ให้คุณต้องเจอปัญหา "งบไม่พอ" หลังประมูลได้

สูตรคำนวณต้นทุนรวม

สูตรพื้นฐานในการคำนวณต้นทุนรวมเป็นดังนี้:

ต้นทุนรวม = ราคาประมูลได้ + VAT 7% (ถ้ามี) + ค่าดำเนินการ + ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

แต่ในความเป็นจริง มีรายละเอียดที่ซับซ้อนกว่านี้มาก เรามาดูทีละส่วนกัน

รายการค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ต้องรู้

1. ราคาที่ประมูลได้ (Hammer Price)

นี่คือราคาที่คุณชนะการประมูล เป็นฐานในการคำนวณค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทั้งหมด

2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% จากราคาประมูล

⚠️ สำคัญมาก: ไม่ใช่รถทุกคันที่ต้องเสีย VAT

ต้องเสีย VAT: รถจากสถาบันการเงิน (รถยึด), บริษัทลีสซิ่ง, บริษัทเช่ารถ
ไม่ต้องเสีย VAT: รถจากบุคคลทั่วไป (ขายเอง)

รถส่วนใหญ่ในลานประมูลมาจากสถาบันการเงิน จึงมักต้องเสีย VAT

วิธีคำนวณ: ราคาประมูลได้ × 7%

3. ค่าดำเนินการ (Administration Fee)

นี่คือค่าธรรมเนียมที่ลานประมูลเรียกเก็บจากผู้ซื้อ แต่ละลานมีอัตราที่แตกต่างกัน:

ลานประมูล	ค่าดำเนินการรถยนต์ (รวม VAT แล้ว)	ค่าดำเนินการมอเตอร์ไซค์ (รวม VAT แล้ว)	ค่าดำเนินการรถบรรทุก 6 ล้อ (รวม VAT แล้ว)
สหการประมูล (AUCT)	12,840 บาท	2,140 - 5,350 บาท	14,980 บาท
สยามอินเตอร์ (SIA)	~12,840 บาท	2,140 - 5,350 บาท	20,865 บาท
Apple Auto Auction	8,560 บาท	-	9,630 บาท
MOTTO Auction	9,630 บาท	-	12,500 บาท
สากลการประมูล	-	-	14,980 บาท
OMAKASE	0 บาท	0 บาท	0 บาท

💡 ข้อสังเกต: OMAKASE ไม่มีค่าดำเนินการเลย ประหยัดได้เยอะมาก!

4. เงินประกันการเข้าประมูล (ได้คืน)

เงินประกันนี้คุณจะได้คืน แต่ต้องวางไว้ก่อน:

รถยนต์: 20,000 บาท (ส่วนใหญ่)
มอเตอร์ไซค์: 5,000 บาท

หากประมูลได้ เงินประกันจะถูกหักเป็นเงินดาวน์ หากไม่ได้ จะคืนให้ภายใน 3-7 วันทำการ

5. ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (แล้วแต่กรณี)

ค่าขนย้ายรถ: หากประมูลออนไลน์และต้องการให้ส่งรถถึงบ้าน (ประมาณ 3-10 บาท/กม.)
ค่าตรวจสภาพ: หากจ้างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบก่อนประมูล (500-2,000 บาท)
ค่าจัดไฟแนนซ์: หากต้องกู้เงิน (1-3% ของยอดจัด)
ค่าต่อภาษี/พรบ.: หากรถมีภาษีหมดอายุ

ตัวอย่างการคำนวณจริง

กรณีศึกษาที่ 1: รถเก๋งประมูลได้ 200,000 บาท (ที่สหการประมูล)

สมมติฐาน:

ราคาประมูลได้: 200,000 บาท
รถมาจากไฟแนนซ์ (ต้องเสีย VAT)
ลาน: สหการประมูล
รับรถเอง (ไม่ใช้บริการขนส่ง)

การคำนวณ:

รายการ	จำนวนเงิน (บาท)
ราคาประมูลได้	200,000
VAT 7% (200,000 × 0.07)	14,000
ค่าดำเนินการ	12,840
รวมต้องจ่ายจริง	226,840
เพิ่มขึ้นจากราคาประมูล	+26,840 (+13.4%)

💰 สรุป: รถที่ประมูลได้ 200,000 บาท ต้องจ่ายจริง 226,840 บาท

กรณีศึกษาที่ 2: รถเดียวกัน แต่ประมูลที่ OMAKASE

การคำนวณ:

รายการ	จำนวนเงิน (บาท)
ราคาประมูลได้	200,000
VAT 7%	14,000
ค่าดำเนินการ (0 บาท!)	0
รวมต้องจ่ายจริง	214,000
ประหยัดกว่าสหการประมูล	-12,840 บาท

💚 สรุป: ซื้อรถคันเดียวกันที่ OMAKASE ประหยัดไปเลย 12,840 บาท

กรณีศึกษาที่ 3: รถกระบะราคา 350,000 บาท (ที่ Apple Auto Auction)

การคำนวณ:

รายการ	จำนวนเงิน (บาท)
ราคาประมูลได้	350,000
VAT 7%	24,500
ค่าดำเนินการ	8,560
รวมต้องจ่ายจริง	383,060
เพิ่มขึ้นจากราคาประมูล	+33,060 (+9.4%)

กรณีศึกษาที่ 4: รถบรรทุก 6 ล้อ ราคา 500,000 บาท (ที่สากลการประมูล)

การคำนวณ:

รายการ	จำนวนเงิน (บาท)
ราคาประมูลได้	500,000
VAT 7%	35,000
ค่าดำเนินการ	14,980
รวมต้องจ่ายจริง	549,980
เพิ่มขึ้นจากราคาประมูล	+49,980 (+10%)

ตารางเปรียบเทียบต้นทุนทั้ง 6 ลาน

สมมติประมูลรถเก๋งได้ที่ราคา 250,000 บาท (มี VAT) ต้องจ่ายจริงเท่าไหร่?

ลานประมูล	ราคาประมูล	VAT 7%	ค่าดำเนินการ	รวมต้องจ่าย	เพิ่มขึ้น
สหการประมูล	250,000	17,500	12,840	280,340	+12.1%
สยามอินเตอร์	250,000	17,500	12,840	280,340	+12.1%
Apple Auto	250,000	17,500	8,560	276,060	+10.4%
MOTTO	250,000	17,500	9,630	277,130	+10.9%
OMAKASE	250,000	17,500	0	267,500	+7.0%

💡 สังเกต: OMAKASE ถูกที่สุด เพราะไม่มีค่าดำเนินการ

ค่าใช้จ่ายแฝงที่คนมักลืม

1. ค่าซ่อมแซม

รถประมูลส่วนใหญ่ขายแบบ "ตามสภาพ" ต้องเตรียมงบซ่อม:

รถสภาพดี: 5,000-20,000 บาท (ยาง, แบตเตอรี่, น้ำมันเครื่อง)
รถสภาพปานกลาง: 30,000-80,000 บาท (เบรก, โช้คอัพ, เกียร์)
รถอุบัติเหตุ: 100,000-300,000+ บาท (งานสี, เครื่อง, ช่วงล่าง)

2. ค่าต่อภาษีและพรบ.

ภาษีรถยนต์: ขึ้นอยู่กับซีซี (ประมาณ 2,000-10,000 บาท/ปี)
พรบ.: 600-1,500 บาท

3. ค่าโอนกรรมสิทธิ์

ค่าธรรมเนียมโอน: 2% ของราคาประเมิน (ไม่ใช่ราคาประมูล)
ค่าดำเนินการ กรมขนส่ง: 200-500 บาท

เคล็ดลับการควบคุมต้นทุน

✅ 1. ตั้งงบไว้เผื่อ 15-20%

ตัวอย่าง: หากงบคุณมี 300,000 บาท

ประมูลไม่เกิน: 250,000 บาท
เหลือไว้: 50,000 บาท สำหรับค่าธรรมเนียม + ซ่อม

✅ 2. เลือกลานที่มีค่าดำเนินการต่ำ

OMAKASE: 0 บาท
Apple Auto: 8,560 บาท
MOTTO: 9,630 บาท

✅ 3. ตรวจสอบว่ามี VAT หรือไม่

ถามเจ้าหน้าที่หรือดูในใบรายละเอียดรถว่า:

"ผู้ขายเป็นนิติบุคคลหรือไม่" → ถ้าใช่ = มี VAT
"รถมาจากไฟแนนซ์หรือไม่" → ถ้าใช่ = มี VAT

✅ 4. นำเข้า BossCarSoft

หากคุณเป็นเจ้าของเต็นท์รถ ใช้ BossCarSoft ช่วยคำนวณ:

ต้นทุนที่แท้จริง (ราคาประมูล + ค่าธรรมเนียม + ค่าซ่อม)
ราคาขายที่ควรตั้ง
กำไรสุทธิ

เครื่องคำนวณง่ายๆ (Quick Calculator)

คุณสามารถใช้สูตรง่ายๆ นี้ประมาณการได้:

สูตรคร่าวๆ:

ราคาจ่ายจริง = ราคาประมูล × 1.12 (ถ้ามี VAT + ค่าดำเนินการปกติ)

ตัวอย่าง: ประมูลได้ 200,000
→ จ่ายจริงประมาณ 200,000 × 1.12 = 224,000 บาท

หมายเหตุ: สูตรนี้เป็นการประมาณ ต้องคำนวณจริงตามค่าธรรมเนียมแต่ละลาน

ตัวอย่างจริงจากผู้ใช้งาน

Case 1: คุณ A ซื้อ Honda City 2018

ประมูลได้: 180,000 บาท (สหการประมูล)
VAT 7%: 12,600 บาท
ค่าดำเนินการ: 12,840 บาท
ค่าซ่อม (ยาง 4 เส้น + เบรก): 15,000 บาท
รวมจ่ายจริง: 220,440 บาท

คุณ A บอกว่า "คิดว่าจะได้รถแค่ 180,000 แต่จ่ายจริงเกือบ 220,000 ถึงรู้ว่าเกินงบ"

Case 2: คุณ B ซื้อ Toyota Fortuner 2016

ประมูลได้: 520,000 บาท (OMAKASE)
VAT 7%: 36,400 บาท
ค่าดำเนินการ: 0 บาท
ค่าซ่อม (ไม่มี เพราะรถสภาพดี): 0 บาท
ค่าเปลี่ยนยางใหม่: 12,000 บาท
รวมจ่ายจริง: 568,400 บาท

คุณ B บอกว่า "ประหยัดค่าดำเนินการ 12,840 บาท + รถสภาพดีไม่ต้องซ่อม คุ้มมาก"

สรุป: สิ่งที่ต้องจำ

📊 ราคาประมูลไม่ใช่ราคาจริง - ต้องบวก VAT + ค่าดำเนินการ
💰 OMAKASE ประหยัดสุด - ไม่มีค่าดำเนินการ
🔧 เผื่องบซ่อม 15-20% - รถประมูลมักต้องซ่อม
📝 ตรวจสอบ VAT - รถจากไฟแนนซ์มักมี VAT
🧮 คำนวณก่อนประมูล - ใช้สูตร: ราคาประมูล × 1.12

การเข้าใจต้นทุนที่แท้จริงจะช่วยให้คุณตั้งราคาประมูลสูงสุดได้อย่างถูกต้อง และไม่ต้องเจอสถานการณ์ "งบพลาด" หลังประมูลได้ สำหรับเจ้าของเต็นท์รถ การใช้ BossCarSoft จะช่วยให้คุณติดตามต้นทุนและคำนวณกำไรได้อย่างแม่นยำ

คู่มือคำนวณค่าใช้จ่ายจริง: ซื้อรถจากลานประมูลต้องเสียเงินเท่าไหร่

เปิดเกมต้นทุน: ราคาที่เห็น ≠ เงินที่ต้องจ่ายจริง

สูตรคำนวณต้นทุนรวม

รายการค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ต้องรู้

1. ราคาที่ประมูลได้ (Hammer Price)

2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% จากราคาประมูล

3. ค่าดำเนินการ (Administration Fee)

4. เงินประกันการเข้าประมูล (ได้คืน)

5. ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (แล้วแต่กรณี)

ตัวอย่างการคำนวณจริง

กรณีศึกษาที่ 1: รถเก๋งประมูลได้ 200,000 บาท (ที่สหการประมูล)

กรณีศึกษาที่ 2: รถเดียวกัน แต่ประมูลที่ OMAKASE

กรณีศึกษาที่ 3: รถกระบะราคา 350,000 บาท (ที่ Apple Auto Auction)

กรณีศึกษาที่ 4: รถบรรทุก 6 ล้อ ราคา 500,000 บาท (ที่สากลการประมูล)

ตารางเปรียบเทียบต้นทุนทั้ง 6 ลาน

ค่าใช้จ่ายแฝงที่คนมักลืม

1. ค่าซ่อมแซม

2. ค่าต่อภาษีและพรบ.

3. ค่าโอนกรรมสิทธิ์

เคล็ดลับการควบคุมต้นทุน

✅ 1. ตั้งงบไว้เผื่อ 15-20%

✅ 2. เลือกลานที่มีค่าดำเนินการต่ำ

✅ 3. ตรวจสอบว่ามี VAT หรือไม่

✅ 4. นำเข้า BossCarSoft

เครื่องคำนวณง่ายๆ (Quick Calculator)

ตัวอย่างจริงจากผู้ใช้งาน

Case 1: คุณ A ซื้อ Honda City 2018

Case 2: คุณ B ซื้อ Toyota Fortuner 2016

สรุป: สิ่งที่ต้องจำ

บทความที่เกี่ยวข้อง

6 ลานประมูลรถยนต์ในไทย: เลือกแห่งไหนดีที่สุดสำหรับคุณ

10 ข้อผิดพลาดมือใหม่ประมูลรถ และวิธีหลีกเลี่ยง